วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2553

hosting linux กับ windows ต่างกันยังไง?

หลายๆท่านมือใหม่ที่กำลังเลือกหา Host อยู่และต้องมาเจอกับ Hosting ที่มีทั้งประเภท linux และ windows จนให้ทำให้สับสนและไม่ทราบว่าเว็บเราเหมาะกับประเภทไหนวันนี้เรามีคำอธิบายการทำงานของทั้ง 2 ประเภทมาให้เปรียบเทียบกันครับ

Host Windowsข้อดีคือ
-เรื่องของการเซ็ตอัพครับที่ง่ายแสนง่าย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของ MS-ใช้งานได้ ทั้ง ASP, ASP.NET, PHP, และอื่นๆ อีกเพียบ
-ฐานข้อมูลใช้ได้หลายตัว เช่น Access, MS SQL Server, MySQL และอื่นๆแล้วแต่จะติดตั้งลงไป
-ใช้ในการเขียนโปรแกรม VS.NET ได้อย่างลงตัว สะดวกสบายและงานเสร็จเร็วข้อเสีย
-เกือบทุกอย่างต้องใช้เงินซื้อทั้งหมด

Host Linuxข้อดีคือ
-ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของลิขสิทธ์ Software ต่างๆ ซึ่งเป็นระบบเปิด
-สามารถใช้ Webserver ที่สุดยอดอย่าง Apache ได้ Windows ก็ใช้ได้แต่ไม่ Work เท่า Linux
-การทำ MOD Rewrite นั้นแสนง่ายดายและไม่มีค่าใช้จ่าย
-หาหนังสืออ่านง่ายข้อเสีย
-คนที่หัดเล่นใหม่ๆอาจปวดหัวกับ Error ต่างๆ รวมถึงความสับสนในการติดตั้งเพื่อใช้งานบน Windows
-เนื่องจากเป็นระบบเปิด จึงทำให้มีผู้ไม่หวังดีโจมตีอยู่บ่อยครั้งส่วนในเรื่องค่าใช้จ่ายในการเช่าHostนั้น

ราคา Host Linux จะถูกกว่าครับส่วนในเรื่องของความเร็วนั้นอยู่ที่ปัจจัยหลายอย่าง ค่าที่ออกมาเลยพอๆกันไม่แตกต่างในเรื่องความเสถียรภาพของระบบ เมื่อก่อน Windows เป็นรองครับ แต่ปัจจุบันนี้ ทำได้ดี สรุปคือพอๆกันส่วนจะเลือกตัวไหนนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใช้ สคริปตัวไหน ไป Run มากกว่าครับ

บทความดีจากคุณ starmark

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

เลือก Hosting ยังไงให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับ Web Hosting กันก่อนว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

เว็บโฮสติ้งคืออะไร?
พื้นที่สำหรับจัดเก็บข้อมูล เช่น HTML,รูปภาพ หรือ โปรแกรมต่างๆ ไว้ที่ "เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) ซึ่งมีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา (24 ชั่วโมง/ 7 วัน) Web Hosting" ทำหน้าที่ ในการแผยแพร่เว็บเพจของเราออกสู่ internet ให้ผู้อื่นเข้าชมได้ โดย Web Hosting จะเชื่อมต่อกับ Internet ตลอดเวลาเพื่อให้บริการเมื่อมีการเรียก ข้อมูลของ Web Site ที่จัดเก็บอยู่ นอกจากนี้ยังให้บริการ การใช้งานอีเมล์ หรือ Script ต่างๆ เป็นต้น

ก่อนเลือก Web Hosting
ก่อนที่คุณจะเลือก Web Hosting คุณควรจะพิจารณาเว็บไซต์คุณก่อนว่าเว็บไซต์คุณเป็นแบบไหนเพื่อที่จะสามารถเลือก Hosting ได้ตรงกับความต้องการกับเว็บไซต์คุณ

Hosting ตั้งอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ
ให้คุณดูก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาที่เว็บของคุณคือใคร หากเป็นลูกค้าในประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ในประเทศ เพราะเวลาลูกค้าคุณกดดูข้อมูลในเว็บไซต์คุณ ก็จะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า ไม่ต้องวิ่งไปหาข้อมูลที่ต่างประเทศ แต่หากลูกค้าคุณเป็นลูกค้าต่างประเทศ ก็ควรเลือก Hosting ที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ เพื่อการเข้าถึงของลูกค้าคุณจะได้รวดเร็วกว่าที่จะต้องเข้ามาดูข้อมูลที่เก็บไว้ที Hosting ในเมืองไทย

ขนาดพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูล ต้องพอเพียงกับข้อมูลของ Web Site ที่จัดทำ
ปกติพื้นที่ขนาด 5 MB ก็เพียงพอต่อการนำเว็บไซต์ทางธุรกิจทั่วไป ที่มี่ภาพและข้อมูล ยกเว้นแต่หากท่านจะมีข้อมูลเป็นจำนวนมากๆ เช่น ข้อมูลรูปภาพหรือไฟล์เอกสารต่างๆ ที่จะเปิดให้ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้หลายรายการ และแต่ละไฟล์มีขนาดใหญ่ ท่านอาจจะต้องพื้นที่เพิ่ม และบางแห่งจะนำ พื้นที่ๆเก็บ E-mail มานำไปคิดรวมกับพื้นที่ๆเก็บไฟล์ข้อมูลของเว็บไซต์คุณ ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่ของเว็บไซต์ท่านไม่เพียงพอต่อการใช้งานได้ เพราะจะต้องใช้ร่วมกับ E-mail ซึ่งต้องเช็กกับทางผู้ให้บริการ ก่อนตัดสินใจใช้ E-mail Box แยกออกจากพื้นที่เก็บไฟล์ข้อมูลเว็บหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่หากรวมกัน ท่านอาจจะต้องการพื้นที่ Host อย่างน้อย 15 MB เป็นอย่างต่ำ

จะมีการใช้เว็บโปรแกรมมิ่งไหมในเว็บของคุณ?
ถ้าหากเว็บไซต์คุณมีการใช้เว็บโปรแกรมมิ่งใน การทำเช่น เว็บบอร์ด, โปรแกรมส่งเมล์หาสมาชิก (Mailing List), หรือ โปรแกรมการเก็บฐานข้อมูล (Database) คุณควรจะเช็กกับทางผู้ให้บริการ Hosting ว่า Server ของเค้าเป็น OS อะไร ถ้าหากเป็น Windows ก็สามารถใช้กับ ภาษาในการเขียนโปรแกรมได้แก่ ASP, PHP, Perl ได้ แต่หากเป็น Unix ก็จะสามารถใช้ได้แค่ PHP, Perl เท่านั้น หรือบางท่านอาจจะต้องการใช้ระบบรักษาความปลอดภัย ก็อาจจะต้องใช้บริการ ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลแบบ SSL (Secure Socket Layer) ซึ่งจะเหมาะกับเว็บไซต์ทีทำ E-Commerce

หลังจากรู้ว่าเว็บไซต์คุณต้องการอะไรแล้ว จากนั้นก็มาดูว่าการเลือก Hosting ที่ดีควรดูจากอะไรบ้าง?

1.ประสิทธิภาพของเครื่อง Server ที่มาใช้ Host
คุณควรจะเช็กก่อนว่าสเป็กของเครื่อง Server ที่จะมา Host ข้อมูลของคุณมีประสิทธิภาพอย่างไรบ้าง CPU, RAM หรือ Harddisk มีขนาดเท่าไร เพราะจะมีส่วนสำคัญในการทำงานและการให้บริการของ Server อย่างมาก ซึ่งหากคุณเลือกสเป็กเครื่อง Server ที่ต่ำอาจจะมีราคาถูกกว่า เครื่องสเป็กที่สูง แต่ประสิทธิภาพและความเร็วในการให้บริการก็จะลดลงด้วย

2.จำนวนลูกค้าต่อเครื่อง Server ที่ให้บริการ
ให้สอบถามไปยัง Hosting ที่ให้บริการว่ามีลูกค้ากี่คน ต่อเครื่อง Server ของเค้า 1 เครื่อง ซึ่ง Hosting ที่ดีจะต้องมีการกำหนดจำนวนลูกค้ากับการรองรับในให้บริการต่อ 1 Server ทั้งนี้เพื่อจะสามารถรองกรับการใช้งานของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ (จำนวนการรับลูกค้า ต่อเครื่อง Server ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่ประสิทธิภาพของเครื่อง Server)

3.ความเร็วในการรับส่งข้อมูล Web Hosting ที่ดีต้องมีความสามารถในการส่งข้อมูลได้รวดเร็ว
หาก Hosting ของท่านตั้งอยู่ที่ ISP ที่มีการเชื่อมท่อต่อต่อกับอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่แล้วละก็จะช่วยทำให้การรับ-ส่งข้อมูลจากเว็บไซต์ของท่านไปยังลูกค้าคุณได้เร็วยิ่งขึ้น

4.ระบบ Backup ข้อมูล Web Hosting ระบบ Backup ข้อมูล Web Hosting ที่ดีควรมีระบบสำรองข้อมูล(Backup) รายวัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจนข้อมูลของ Web Site สูญหาย โดยคุณสามารถเรียกข้อมูลที่ Back Up เอาไว้กลับมาให้บริการได้

5. ปริมาณข้อมูลที่รับ-ส่งได้ (Bandwidth)Hosting บางแห่งจะมีการจำกัดปริมาณข้อมูลที่มีการรับส่งเข้าออกจากเว็บไซต์ของคุณ โดยบางแห่งจะสามารถรับส่งได้ไม่จำกัด หรือบางแห่งอาจจะมีการกำหนดเอาไว้ เช่นต่อเดือน ปริมาณการรับส่งข้อมูลของเว็บไซต์คุณ 500 MBซึ่งหากเกิน ก็อาจจะมีการชาร์ตเงินเพิ่มต่อจำนวนข้อมูลที่มีการรับส่งเพิ่มมากขึ้น

6.จำนวน e-mail ที่สามารถใช้ได้ เช็กว่าพื้นที่ๆคุณเช่า เค้าจะมีบริการ E-mail ให้กี่ E-mail ให้แก่คุณโดยคุณสามารถกำหนดชื่อ E-mail ได้ตามที่คุณต้องการ

7.การ Support หรือการให้บริการหลังการขายการให้บริการหลังการขายถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ท่านควรจะเช็กก่อนว่าเวลาในการให้บริการของ Web Hosting ในการให้บริการตอบคำถาม หรือติดตามปัญหาต่างๆ รวดเร็วแค่ไหน มีบริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันไหม? (ส่วนใหญ่คนที่เลือกบริการ Hosting ต่างประเทศมักจะเจอปัญหาการติดต่อกับผู้ให้บริการลำบาก)

8.ราคาหรือค่าบริการ อัตราค่าบริการที่ Web Hosting เรียกเก็บเป็นรายเดือนจะขึ้นอยู่กับความสามารถและประสิทธิภาพของ Hosting ที่ต้องการ โดยราคาค่าบริการบางแห่ง มีค่าบริการหลัก 10 บาทไปจนถึง เป็นหมื่นต่อเดือน โดยทั่วไปผู้ให้บริการ Web Hosting จะมีบริการให้เลือกหลายรูปแบบ บางที่จะเรียกเก็บค่า Setup หรือค่าแรกเข้าเมื่อเริ่มใช้บริการ

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงปัจจัยบางส่วนในการเลือก Hosting ในการเก็บรักษาข้อมูลของเว็บไซต์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้ดีตั้งแต่แรก เพราะหากมีปัญหาและท่านต้องย้าย Hosting จะเป็นเรื่องที่จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนมาก ดังนี้ ใช้เวลาเลือกซักนิดก่อน จะได้ใช้ไปนานๆ ครับ

สนับสนุนบทความดีๆโดย http://www.pawoot.com